เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ ประวัติสโมสรอาร์เซน่อล

เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ ประวัติสโมสรอาร์เซน่อล เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ เล่นใน พรีเมียร์ลีก ตั้งอยู่ในเมือง ฮอลโลเวย์ ทางตอนเหนือของ ลอนดอน ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรเริ่มก่อตั้งในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2429 โดยผู้ริเริ่มคือ เดวิด แดนสกิน ชาวสกอตแลนด์ และ เพื่อนคนงานอีก 15 คน ที่ทำงานในโรงงาน อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่เมือง วูลวิช ได้ลงความเห็นตั้งชื่อสโมสรแรกว่า ไดอัล สแควร์ สมาชิกแต่ละคนบริจาคเงินหกเพนนี และ แดนสกิน เพิ่มเงินอีกสามชิลลิงเพื่อช่วยก่อตั้งสโมสร
ลงเล่นนัดแรกในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2429 กับ อีสเทิร์น วันเดอเรอร์ส สามารถเอาชนะไปได้ถึง 6–0 ต่อมาในเดือน มกราคม พ.ศ. 2430 ทางสโมสรก็ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ รอยัล อาร์เซน่อล ในช่วงแรกพวกเขาใช้ พลัมสเตด เป็นที่ตั้งแรกของพวกเขาในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลแรก ก่อนจะใช้ฤดูกาลที่เหลือกับ คฤหาสน์กราวด์ (พลัมสเตด) ถ้วยรางวัลแรกของพวกเขาคือ เคนท์ ซีเนียร์ คัพ เป็นการแข่งขันฟุตบอลแบบน็อคเอาต์ หรือ แพ้คัดออก ระหว่างสโมสรอาชีพในเทศมณฑล เคนท์ บริหารงานโดย สมาคมฟุตบอล เคนต์ เคาน์ตี
ต่อมาในปี พ.ศ. 2436 ทางสโมสรก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเมื่อได้จดทะเบียนขึ้นเป็น บริษัทจำกัด ในชื่อ วูลลิช อาร์เซน่อล ได้เข้าร่วมกับ ฟุตบอลลีก อังกฤษ และ เวลส์ ( EFL ) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2431 เป็นการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นลีกฟุตบอลระดับสูงสุดในอังกฤษตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปี 1992 เมื่อสโมสรชั้นนำ 22 แห่งแยกออกตัวจากลีกเพื่อก่อตั้งพรีเมียร์ ลีก ทำให้ EFL แบ่งออกเป็น แชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน และ ลีกทู แทน โดยมี 24 สโมสรในแต่ละดิวิชั่น รวมเป็น 72 โดยมีการเลื่อนชั้นและการตกชั้น

วูลลิช อาร์เซนอล เป็นสมาชิกทางใต้ทีมแรกของฟุตบอลลีก โดยเริ่มต้นในดิวิชั่นสอง และ ขึ้นสู่ดิวิชั่นหนึ่งในปี พ.ศ. 2447 แต่เมื่อปี พ.ศ. 2453 ทางสโมสรต้องประสบกับวิกฤตอย่างหนัก เนื่องจากปัญหาทางการเงิน ทำให้เกือบล่มสลาย จึงทำให้พวกเขาตกชั้นอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2456 จนทำให้ทางเจ้าของทีมตัดสินใจย้ายข้ามอม่น้ำไปยัง สนามกีฬาอาร์เซน่อล แห่งใหม่ใน ไฮเบอรี ในปี พ.ศ. 2462 แต่ฟอร์มพวกเขากลับไม่ได้โดดเด่นเหมือนแต่ก่อน ทำให้อริร่วมเมืองอย่าง ท็อปแน่นฮอตสเปอร์ ขึ้นสู่ลีกสูงสุดแทน
ส่วนพวกเขาทำได้เพียงจบอันดับที่ 5 เท่านั้น หลังจากย้ายเมืองมาตั้งที่ใหม่พวกเขาลบคำว่า วูลลิช ออกเป็น เดอะ อาร์เซน่อล แทน ก่อนจะมีมติครั้งสุดท้ายตัดคำว่า “เดอะ” ออกแล้วใช้แค่คำว่า อาร์เซน่อล เป็นครั้งสุดท้ายดั่งที่ทราบกันโดยทั่วไปในปัจจุบัน ก่อนต่อมาแฟน ๆ จะใช้ฉายาเรียกกันปากต่อปาก ทางฝั่งของอังกฤษเองเรียกว่า เดอะ กัน เนอร์ แฟนบอลในประเทศไทยก็จะเรียกกันว่า ไอ้ปืนใหญ่ หรือ ปืนใหญ่ ที่มาของฉายาเกี่ยวเนื่องด้วยทั้งชื่อที่แปลว่าคลังแสงอาวุธประจวบกับตราสโมสรที่เป็นรูปปืนใหญ่ นั้นเอง
ตราสโมสรอาร์เซน่อล จากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ตราสโมสรอาร์เซน่อล ก็เป็นที่จดจำสำหรับแฟน ๆ ไอ้ปืนใหญ่กันทั่ว ด้วยความที่เป็นเอกลักษณ์ สีที่สวยงามกลมกลืน ถูกเปิดตัวในปี พ.ศ. 2431 ตราอาร์เซน่อล ชิ้นแรกของ Royal Arsenal มีปืนใหญ่ สามกระบอก ให้ปากกระบอกขึ้นด้านบน ชี้ไปทางทิศเหนือ คล้ายกับตราแผ่นดินของนครหลวงวูลวิช บางครั้งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นปล่องไฟ มีหัวสิงโต ที่โคนกระบอก

ก่อนจะถูกยกเลิกหลังจากย้ายไปไฮเบอรีในปี พ.ศ. 2456 แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ. 2465 เมื่อสโมสรใช้ปืนใหญ่กระบอกเดียว ชี้ไปทางทิศตะวันออก โดยมีชื่อเล่นของสโมสรคือ เดอะกันเนอร์ส จารึกไว้ข้างๆ ตรานี้คงอยู่จนถึงปี พ.ศ. 2468 เมื่อปืนใหญ่หันกลับไปชี้ไปทางทิศตะวันตกและลำกล้องบางลง แล้วมีตราสัญลักษณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการแข่งขันที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น ตรา ‘Monogram’ ที่ใช้ในนัดชิงเอฟเอคัพปี 1930 – ป้าย ‘อาร์ตเดโค’ อยู่ภายในเสื้อนักแข่ง และ Cannon ปรากฏบนเสื้อตั้งแต่ปี 1960 ถึง 1990

ในปีพ.ศ. 2492 สโมสรได้เปิดตัวตราสัญลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น ยังคงแนวคิดเดิมที่มีรูปปืนใหญ่ ตัวกระบอกปืนอยู่เหนือตราแผ่นดินของ มหานครแห่งอิสลิงตัน ตัวหนังสือที่จารึกคำขวัญ ภาษาละติน ของสโมสร วิกตอเรีย Victoria Concordia Crescit “ชัยชนะมาจากความสามัคคี” จัดทำโดย แฮร์รี่ โฮเมอร์ บรรณาธิการรายการของสโมสร ซึ่งในตราสโมสรชิ้นนี้จะประกอบด้วยกัน 3 สีคือ แดง ทอง และ เขียว เนื่องจากมีการแก้ไขตราหลายครั้ง อาร์เซน่อลจึงไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ แม้ว่าสโมสรจะสามารถจดทะเบียนตราสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายการค้าได้ก็ตาม
แต่พวกเขาก็เลือกที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิของสโมสร และ ในที่สุดก็ชนะ ในการต่อสู้ทางกฎหมายอันยาวนานกับพ่อค้าข้างถนนในท้องถิ่นที่ขายสินค้าของอาร์เซนอล “อย่างไม่เป็นทางการ” ต่อมาทาง อาร์เซนอล ก็ต้องการความคุ้มครองทางกฎหมายที่ครอบคลุมมากขึ้น ดังนั้นในปี 2545 พวกเขาจึงแนะนำตราสัญลักษณ์ใหม่ที่มีเส้นโค้งที่ทันสมัยกว่าและรูปแบบที่เรียบง่าย ปืนใหญ่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกอีกครั้ง และชื่อสโมสรเขียนด้วยอักษร sans-serif ตัวอักษรเหนือปืนใหญ่ สีเขียวถูกแทนที่ด้วยสีน้ำเงินเข้ม

และกรณีพิเศษ ที่ได้จัดทำ ตราสโมสรอาร์เซน่อลครบรอบ 125 ปี สร้างสำหรับฤดูกาล 2011–12 ยอดเป็นสีขาวทั้งหมด ล้อมรอบด้วย ใบ โอ๊ก 15 ใบทางด้านขวาและ ใบ ลอเรล 15 ใบทางด้านซ้าย ใบโอ๊กเป็นตัวแทนของสมาชิกผู้ก่อตั้งสโมสร 15 คนรุ่นก่อตั้ง ใบลอเรล 15 ใบแสดงถึงรายละเอียดการออกแบบบนเงิน 6 เพนนีที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งจ่ายเพื่อก่อตั้งสโมสร ใบลอเรลยังแสดงถึงความแข็งแกร่ง เพื่อให้ยอดเสร็จสมบูรณ์ 1886 และ 2011 จะแสดงที่ด้านใดด้านหนึ่งของคำขวัญ “ไปข้างหน้า” ที่ด้านล่างของยอด
ชุดสโมสรอาร์เซน่อล เหย้า-เยือน อดีตจนถึงปัจจุบัน
ชุดสโมสรอาเซน่อล สีประจำทีมเหย้าของพวกเขาคือเสื้อสีแดงสด มีแขนสีขาว และ กางเกงขาสั้นสีขาว แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป การเลือกใช้สีแดงเป็นการแสดงถึงการช่วยเหลือจาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ไม่นานหลังจากก่อตั้งอาร์เซนอลในปี พ.ศ. 2429 เฟรด เบียร์ดสลีย์ และ มอร์ริส เบทส์ สมาชิกผู้ก่อตั้งไดอัล สแควร์ 2 คน เป็นอดีตผู้เล่นฟอเรสต์ที่ย้ายไปวูลวิชเพื่อทำงาน จึงขอความช่วยเหลือจากบ้านและได้รับชุดอุปกรณ์และลูกบอล เสื้อเชิ้ตสี แดงลูกเกด สีแดงเข้ม และสวมกางเกงขาสั้นสีขาวและถุงเท้าที่มีห่วงสีน้ำเงินและสีขาว ในปีพ.ศ. 2476 เฮอร์เบิร์ต แชปแมนต้องการให้ผู้เล่นแต่งกายให้โดดเด่นยิ่งขึ้น จึงได้ปรับปรุงชุดแข่ง เพิ่มปลอกแขนสีขาว และเปลี่ยนสี เป็นสีแดงที่สว่างขึ้น
มีการสันนิษฐานความเป็นไปได้สองประการสำหรับที่มาของแขนเสื้อสีขาว ข้อแรกมีการกล่าวว่าแชปแมนสังเกตเห็นแฟน ๆ บนอัฒจันทร์สวมเสื้อสเวตเตอร์แขนกุดสีแดงทับเสื้อเชิ้ตสีขาว อีกข้อคือ เขาได้รับแรงบันดาลใจจากชุดที่คล้ายกันซึ่งสวมใส่โดย นักเขียนการ์ตูน ทอม เว็บสเตอร์ ซึ่งแชปแมน เคยเล่นกอล์ฟด้วย แต่ทั้งข้อสงสัยทั้งสองเรื่องยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเรื่องใดคือเรื่องจริง เสื้อเชิ้ตสีแดงและสีขาวได้กลายมาเป็นคำจำกัดความของอาร์เซนอล และทีมก็สวมชุดดังกล่าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เป็นเวลาหลายปีที่สีชุดเยือนของอาร์เซนอลคือสีขาวหรือสีน้ำเงินกรมท่า อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2511 เอฟเอ สั่งห้ามเสื้อสีกรมท่า (ดูคล้ายกับชุดดำของผู้ตัดสินมากเกินไป) ดังนั้นในฤดูกาล พ.ศ. 2512–70 อาร์เซนอลจึงแนะนำชุดเยือนที่เป็นเสื้อสีเหลืองและกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ชุดนี้สวมใส่ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1971 เมื่ออาร์เซนอลเอาชนะ ลิเวอร์พูล และคว้า ดับเบิ้ลแชมป์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์




หอเกียรติยศอาร์เซนอล รางวัลสโมสรอาร์เซน่อล

รางวัลสโมสรอาร์เซน่อล แชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย สูงเป็นอันดับสามในฟุตบอลอังกฤษ รองจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 20 ครั้ง และลิเวอร์พูล 19 ครั้ง ครองแชมป์เอฟเอคัพได้สูงสุด 14 รายการ เป็นหนึ่งในไม่กี่ทีมที่คว้าแชมป์เอฟเอคัพสองครั้งติดต่อกันในปี 2545 – 2546 และ 2557 – 2558 และยังสามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์มาครองได้สำเร็จในปี 1971, 1998 และ 2002 ครองสถิติคว้า แชมป์เอฟเอคัพมากที่สุด 14 สมัย ยังเป็นทีมแรกของกรุงลอนดอนที่สามารถเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ ในปี 2006 และสถิติที่ทำให้โลกฟุตบอลสั่นสะเทือนคือกลายเป็นแชมป์ไร้พ่าย
ดิวิชันหนึ่ง/พรีเมียร์ลีก
ชนะเลิศ (13): 1930–31, 1932–33, 1933–34, 1934–35, 1937–38, 1947–48, 1952–53, 1970–71, 1988–89, 1990–91, 1997–98, 2001–02, 2003–04
ดิวิชันสอง
รองชนะเลิศ (1): 1903–04
เอฟเอคัพ มากสุดในประวัติศาสตร์
ชนะเลิศ (14): 1929–30, 1935–36, 1949–50, 1970–71, 1978–79, 1992–93, 1997–98, 2001–02, 2002–03, 2004–05, 2013–14, 2014–15, 2016–17, 2019–20
อีเอฟแอลคัพ
ชนะเลิศ (2): 1986–87, 1992–93
ชาริตีชิลด์/คอมมิวนิตีชิลด์
ชนะเลิศ (16): 1930, 1931, 1933, 1934, 1938, 1948, 1953, 1991 (แชมป์ร่วม), 1998, 1999, 2002, 2004, 2014, 2015, 2017, 2020
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
รองชนะเลิศ (1): 2005–06
ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ
ชนะเลิศ (1): 1993–94
ยูฟ่าคัพ/ยูฟ่ายูโรปาลีก
รองชนะเลิศ (2): 1999–00, 2018–19
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
รองชนะเลิศ (1): 1994
อินเตอร์-ซิตีส์แฟส์คัพ
ชนะเลิศ (1): 1969–70
เอมิเรตส์คัพ
ชนะเลิศ (5): 2007, 2009, 2010, 2015, 2017
เรื่องอื่น ๆ : อาร์เซน่อล
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม :: ย้อนตำนานแชมป์ไร้พ่าย